ต้นกำเนิด: จากภาษาละติน
มีความมหมายว่า "ของขวัญจากผืนโลก"
เป็นเวลาหลายปีที่ดร. เดวิดฮิลล์ใช้ประโยชน์จากน้ำมันหอมระเหยในการรักษาสุขภาพแบบแผนใหม่ ในฐานะแพทย์เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักกันดีในวงการน้ำมันหอมระเหยและการรักษาโรคแบบบูรณาการ ดร. ฮิลล์ร่วมมือกับแพทย์และโรงพยาบาลทั่วโลกในการกำหนดและสร้างการบูรณาการทางการแพทย์ นอกจากนี้เขายังใช้น้ำมันหอมระเหยในการักษาด้านสุขภาพแบบแผนใหม่ เขาส่งเสริมการศึกษาและความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์น้ำมันหอมระเหยผ่านทางมหาวิทยาลัยหลายแห่งและหน่วยงานวิจัยที่ให้บริการวิทยาศาสตร์อันทันสมัยสำหรับผู้ใช้น้ำมันหอมระเหย เขารับเชิญให้ไปแบ่งปันความรู้ในรายการวิทยุและโทรทัศน์หลายรายการรวมถึงเขียนหนังสือและสิ่งพิมพ์อื่น ๆ เป็นจำนวนมาก ดร. ฮิลล์อยู่เป็นผู้บุกเบิกและอุทิศตนเพื่อกระตุ้นให้ผู้อื่นสามารถควบคุมสุขภาพของตนเองได้
ดร. พอล ดับเบิลยู วินเทอร์ตัน เป็นศัลยแพทย์กระดูกและไขข้อกระดูก ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและได้รับการรับรอง เขาสำเร็จการศึกษาด้านการแพทยศาสตร์จากสถาบันแพทย์ฮาร์วาร์ดในปี ค.ศ. 1993 และทำงานเป็นแพทย์ผ่าตัดทางศัลยกรรมกระดูกและข้อที่โรงพยาบาลเมโยในปีค.ศ. 1998 หลังจากจบการศึกษาเขาได้รับทุนการศึกษาจำนวน 2 ทุน ที่สถาบันโรคกระดูกและข้อในหัวไหล่และข้อเข่า และ ทุนในการทำงานวิจัยโครงสร้างเท้าและข้อเท้าในจากเมืองฟินิกซ์ รัฐอาริโซน่า
ปัจจุบันดร. วินเทอร์ตัน ดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาสำหรับวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา ด้านศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เขาได้สนับสนุนการบูรณาการทางการแพทย์และใช้น้ำมันหอมระเหยในการรักษามาเป็นเวลาหลายปี ในฐานะสมาชิกของคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ "โดเทอร์ร่า" เขามีการค้นคว้าเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐานด้านชีววิทยาของเซลล์และการใช้งานน้ำมันหอมระเหยเพื่อรักษาอาการของผู้ป่วย เขาส่งเสริมการใช้น้ำมันหอมระเหยและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในครอบครัว เช่นเดียวกับในสถานพยาบาลแบบตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อ
ดร. เดวิด สตาวเอ่อร์ สำเร็จการศึกษาด้านเกียรตินิยมด้านละตินศึกษาและเคมีจาก บีวาย์ยู และ แมกน่า คัม ลูทดิ์ จากโรงเรียนทันตกรรม มหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ จากนั้นเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนการแพทย์ / ทันตกรรมของฮาร์วาร์ดและเอ็มไอที เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมด้านศัลยศาสตร์ช่องปากและเอ็นโดดอนต์ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาใน 3 ปีด้วยเกียรตินิยม นอกจากนี้เขายังได้ฝึกงานด้านศัลยกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัย เพนน์และอ๊อกซ์ฟอร์ด ในออสเตรียที่โรงพยาบาล เคแอลแอช ในกราซ
เขาเป็นผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของสตาวเอ่อร์ เมเนจเมนท์ จำกัด และ ลูมินิเซนท์ แคปปิตัล พาร์ทเนอร์ จำกัด ดร. สตาวเอ่อร์ ทำหน้าที่ในคณะกรรมการบริหารขององค์กร เฮมาเมตริก (Hemametrics) ซึ่งเป็น บริษัทวิจัยและผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งถูกควบกิจการจาก เฟรเซนีอุส เมดิคัล แคร์ ในปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของทรานคิว อนาไลติก (TransQ Analytics) ที่เชี่ยวชาญในการตรวจวิเคราะห์เลือด และดำรงตำแหน่งในคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพและเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นเมน โรงเรียนแพทย์ ดร. สตาวเอ่อร์ มีส่วนร่วมในการค้นคว้าวิธีใหม่ ๆ ในใช้น้ำมันหอมระเหยในการรักษาของเขา
ดร. ไกเกอร์เป็นวิสัญญีแพทย์ตั้งแต่ปีค.ศ. 1986 เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกและทำงานในโรงพยาบาลซานฟรานซิสโกและดำรงตำแหน่งเป็นวิสัญญีแพทย์ให้กับพ่อของเขา ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ทรวงอกที่เกษียณแล้ว
ดร. ไกเกอร์เป็นนักบำบัดด้วยการใช้อโรม่ามาตั้งแต่ปีค.ศ. 2004 ในขณะที่อยู่ในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลเขาสังเกตเห็นพยาบาลใช้น้ำมันหอมระเหยในการรักษาอาการคลื่นไส้หลังจากการผ่าตัด เขาสนใจเป็นอย่างมากและเริ่มศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์ เช่นกายวิภาคศาสตร์สรีรวิทยาและการประยุกต์ทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยนั้นมีความคล้ายคลึงกับการระงับความรู้สึก เขามุ่งมั่นที่จะคิดหาวิธีผสมผสานน้ำมันหอมระเหยโดยวิธีที่ปลอดดร. ไกเกอร์ ทำงานด้านวิสัญญีแพทย์ และเป็นคณะกรรมการและให้การบรรยายและสัมมนาผ่านระบบออนไลน์ ในเรื่องการใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างไรให้ปลอดภัยในโรงพยาบาลและศูนย์ศัลยกรรมเพื่อปรับปรุงการดูแลผู้ป่วย ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ในศูนย์การแพทย์หลายแห่งโรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกและศูนย์ศัลยกรรมซึ่งเขาได้แนะนำการบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหยเข้ามาในห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้นอีกด้วย
ภัยที่สุดให้กับตัวเขาเองและผู้อื่น รวมถึงผู้ป่วยในห้องผ่าตัดอีกด้วยดร. โยกาซอน ที่มีถิ่นฐานอยู่ที่เมืองซอลท์เลคซิตี้ รัฐยูทาห์ เป็นศัลยแพทย์หูจมูกและลำคอ เขาได้รับปริญญาทางการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รัฐนิวยอร์กและได้เป็นแพทย์ประจำการที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ เขามีส่วนร่วมในการวิจัยเกี่ยวกับพิษวิทยาของยาและการฟื้นฟูในการได้ยินในเมืองลอสแองเจลิส ที่ สถาบันฮอสต์ เอีย และที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ เขาได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดหูที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตา ปัจจุบันเขาทำงานที่บิสมาร์ก นอร์ท ดาโคตา ที่ ซานฟอร์ด เฮลท์ ในฐานะศัลยแพทย์ประสาทหูเทียมและผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินและการทรงตัว เขาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์คลินิกในมหาวิทยาลัย นอร์ธ ดาโคตา
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนด้านการแพทย์ทางเลือกและได้ใช้น้ำมันหอมระเหยในการปฏิบัติงานของเขา อีกทั้งเขายังดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์คลินิกที่คณะในมหาวิทยาลัยนอร์ธ ดาโคตา
ดร. แฮทซอก เป็นคณะกรรมการแพทย์ที่ได้รับการรับรองในฐานะแพทย์แบบองค์รวม ระหว่างแพทย์และกุมารแพทย์ที่อุทิศตนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพอย่างแท้จริง ปัจจุบันเธอปฏิบัติงานใน เมืองยอร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย และมีครอบครัวพร้อมลูก 3 คน ในบัลติ มอร์เคาน์ตี้ รัฐแมริแลนด์ เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีการแพทย์และกุมารแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ในระหว่างการศึกษาของเธอนั้นเธอได้มีส่วนร่วมในการวิจัยที่ เอ็นไอเอช (NIH) และมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ถึงแม้ว่าเธอจะสนใจในงานวิทยาศาสตร์มากเพียงใด แต่เธอก็ค้นพบว่แท้จริงแล้วเธอมีความสุขที่จะดูแลทารกแรกเกิดและเด็กป่วยมากกว่า เธอตัดสินใจทำงานเป็นกุมารแพทย์ในรัฐแมรี่แลนด์ รัฐยูทาห์และรัฐเพนซิลเวเนีย
เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่เธอพยายามแสดงให้ทุกคนเห็นและสอนให้กับครอบครัวของเธอรวมถึงเพื่อนผู้ป่วย ครอบครัวของพวกนักศึกษาแพทย์และเพื่อนร่วมงานให้เข้าใจตรงกัน เธอเป็นหนึ่งในผู้ใช้น้ำมันหอมระเหยโดเทอร์ร่าและเธอเชื่อว่าน้ำมันหอมระเหยสามารถสร้างปาฏิหาริย์ในวงการยาสมัยใหม่ได้ อีกทั้งน้ำมันหอมระเหยยังช่วยเสริมสร้างการรักษาทางการแพทย์ที่ดีเยี่ยมให้กับโลกใบนี้อีกด้วย
ดร. บรานนิคก์ ริกก์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมา 13 ปี ในปีค.ศ. 2001 เขาสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแอริโซนา ใน ทูซอน ในขณะที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการแพทย์เพิ่มเติมในส่วนของแพทย์ทางเลือก เขาเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและเป็นสมาชิกของสมาคมเวชศาสตร์ครอบครัวของสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเขาทำงานที่รัฐยูทาห์และสนุกกับการใช้น้ำมันหอมระเหยในบ้านของเขา ดร. ริกก์ กำลังร่วมมือกับโดเทอร์ร่าในส่งเสริมการใช้น้ำมันหอมระเหยกับอาสาสมัครและผู้ที่พักฟื้น
ดร. เกรกอรี่ แอล วูดฟิลล์ เป็นสูตินรีแพทย์และผู้ชำนาญโรคเฉพาะสตรี ที่ผ่านการรับรองจากสถาบัน เขาสำเร็จการศึกษาด้านการแพทย์ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท ในปีค.ศ. 1997 และสำเร็จการศึกษาด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในปีค.ศ. 2001 ดร. วูดฟิลล์ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าสูตินรีแพทย์ประจำปีค.ศ. 2000-2001 และปีค.ศ. 1998-2002 เขาได้พัฒนาโปรแกรมด้านสุขภาพของสตรีที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งเวอร์จิเนียและทำหน้าที่เป็นประธานแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาตั้งแต่ปีค.ศ. 2001-2008 เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่โรงพยาบาลชุมชน ไวท์ เคาท์ตี้ (Wythe County) และเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่สมาคมทางการดูแลสุขภาพของวิลมิงตัน ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในเมืองวิลมิงตัน รัฐนอร์ทแคโรไลนาที่ซึ่งเขาทำงานด้วยกระบวนการที่เป็นอันตรายน้อยที่สุดจากการส่องกล้องเข้าไประบบในทางเดินปัสสาวะของผู้ป่วย นอกจากนี้เขายังให้การศึกษาทางคลินิกแก่ผู้อยู่อาศัยใน ซีอีเอเอชอีซี (SEAHEC) ซึ่งเขาได้รับการยกย่องให้เป็นศาสตราจารย์แห่งปีในด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาปีค.ศ. 2014-2015
ดร. วูดฟิลล์และภรรยาของเขาแอชลีย์ผู้ร่วมก่อตั้ง อีสต์ โคสต์ ออย์ (East Coast Oils (ECO)) ซึ่งพวกเขาศึกษาการใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ รวมถึงทำการวิจัยโดยตรงเพื่อค้นหาความก้าวหน้าของน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ดูแลสุขภาพระดับมืออาชีพ เขาให้การศึกษาแก่ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและที่ปรึกษาด้านสุขภาพทั่วสหรัฐอเมริกา